‘ภูมิธรรม’ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ พร้อมคณะ ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จ.ระยอง พร้อมประสานความร่วมมือทุกฝ่ายผลักดันโครงการให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็วอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่สนามบินอู่ตะเภา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยมี ดร.ธาริศร์ อิสสระยั่งยืน รองเลขาธิการ สายงานโครงสร้างพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พร้อมด้วยผู้แทนจากกองทัพเรือ และผู้แทนจากบริษัทเอกชนด้านงานก่อสร้างและสาธารณูปโภคในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาฯ ร่วมบรรยายสรุปถึงความก้าวหน้าการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ในด้านต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่ EEC สร้างความมั่นใจและดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เข้าสู่พื้นที่ EEC ต่อเนื่อง
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมารับฟังในส่วนของการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ ในวันนี้ ถือเป็นการมาร่วมขับเคลื่อนสนามบินอู่ตะเภาฯ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาพื้นที่ EEC และมีความยินดีที่วันนี้ ได้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐโดยกองทัพเรือ และภาคเอกชน ที่จะร่วมกันสร้างความร่วมมือผลักดันให้โครงการฯ ได้เดินหน้าต่อเนื่อง โดยในฐานะรองนายกฯ และในบทบาทประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ เพื่อแก้ไขข้อติดขัดของโครงการในทุกด้าน เพื่อให้โครงการสำเร็จโดยเร็ว ผลักดันการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ความก้าวหน้าการพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกในส่วนของหน่วยงานรัฐที่สำคัญๆ อาทิ ด้านงานก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับ ปัจจุบันกองทัพเรือ ได้รับอนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 16,210 ล้านบาท และ สกพอ. ได้ส่งมอบพื้นที่เขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ เป็นที่เรียบร้อย และอยู่ระหว่างกระบวนการคัดเลือกผู้รับเหมางานก่อสร้าง และที่ปรึกษาเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง ด้านงานระบบสาธารณูปโภคที่จัดทำโดยภาครัฐ เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ขนาด 15 เมกะวัตต์ มีความก้าวหน้า 95.13% งานระบบประปาและน้ำเสีย กำลังผลิตน้ำประปา 10,000 ลูกบาศเมตรต่อวัน (เฟสแรก) ก่อสร้างแล้ว 100% ระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานมีความก้าวหน้าภาพรวม 50.16%
ในส่วนการประสานแจ้งให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการฯ (NTP) คาดว่าจะสามารถแจ้ง NTP ได้ภายในปี 2567 นี้ เพื่อเริ่มก่อสร้างงานสำคัญๆ เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง และศูนย์ธุรกิจการค้า เป็นต้น ซึ่งคาดว่าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572 โดยการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จะก้าวสู่ศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค เป็นสนามบินนานาชาติที่ได้มาตรฐานโลก รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ภาคธุรกิจ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นใจ และเป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดให้นักลงทุนเข้าสู่พื้นที่ EEC.